ขอบเล็บอักเสบ

แชร์

โรคขอบเล็บอักเสบ เกิดจากการที่เนื้อเยื่อและผิวหนังบริเวณโคนเล็บติดเชื้อ เกิดได้ทั้งที่นิ้วมือและนิ้วเท้า 

โรคขอบเล็บอักเสบแบ่งออกเป็น 2 ชนิด ได้แก่

  • โรคขอบเล็บอักเสบเฉียบพลัน (Acute Paronychia) อาการของโรคจะเกิดขึ้นภายในหนึ่งชั่วโมงหรือภายใน 2-3 วัน การติดเชื้อจะเกิดแค่บริเวณขอบเล็บ แต่ไม่ขยายลึกลงไปด้านในนิ้วมือหรือนิ้วเท้า อาการอักเสบจะเกิดไม่เกิน 6 สัปดาห์
  • โรคขอบเล็บอักเสบเรื้อรัง (Chronic Paronychia) คือขอบเล็บอักเสบที่จะค่อย ๆ แสดงอาการออกมา และเกิดการอักเสบมามากกว่า 6 สัปดาห์ อาจเกิดพร้อมกันหลายเล็บได้

อาการของโรคขอบเล็บอักเสบ

  • มีอาการปวด บวม บริเวณขอบเล็บ
  • ผิวรอบขอบเล็บจะอักเสบจนเปลี่ยนเป็นสีแดง เมื่อจับจะรู้สึกร้อน
  • มีหนองไหลออกมาจากบริเวณที่มีการอักเสบ อาจเป็นหนองสีขาวหรือสีเหลือง หากเป็นหนอง แพทย์จะพิจารณาใช้ยาปฏิชีวนะหรือเจาะระบายหนองเพื่อการรักษา

สาเหตุที่ทำให้เกิดขอบเล็บอักเสบมีอะไรบ้าง

  • เกิดแผลที่เล็บ เช่น เล็บถูกกระแทกหรือถูกของหนักหล่นใส่
  • เกิดจากการตกแต่งเล็บ เช่น ตัดเล็บผิดวิธี ทำเล็บหรือต่อเล็บปลอม
  • เกิดจากการที่มือเท้าเปียกชื้นเป็นประจำ 
  • เล็บมือพิการแต่กำเนิด
  • เกิดจากการกัดเล็บหรือแทะเล็บเป็นประจำ

วิธีป้องกันไม่ให้เกิดขอบเล็บอักเสบ

  • ทาโลชั่นให้ความชุ่มชื้นหลังล้างมือเสมอ
  • หลีกเลี่ยงการสัมผัสสารที่ทำให้ระคายเคือง เช่น ผงซักฟอกและสบู่
  • รักษามือและเท้าให้แห้งอยู่เสมอ ไม่ควรให้เปียกชื้นเป็นเวลานาน 
  • หลีกเลี่ยงการทำให้เล็บเกิดบาดแผล ไม่ควรแคะเล็บหรือกัดเล็บ 
  • ไม่ควรตกแต่งเล็บด้วยการขูดเนื้อเยื่อรอบเล็บออกบ่อย ๆ
  • ดูแลเล็บมือและเท้าให้สะอาด ไม่อับชื้น

วิธีรักษาขอบเล็บอักเสบ

  • การใช้ยาปฏิชีวนะ ใช้ได้ทั้งชนิดทาและชนิดรับประทาน
  • การผ่าตัด มักจะใช้วิธีการผ่าตัดเมื่อมีภาวะขอบเล็บอักเสบเป็นหนอง หรือมีภาวะเล็บขบร่วมด้วย

นัดหมายแพทย์

นัดหมาย

Login