การติดเชื้อแบคทีเรียที่ผิวหนัง

แชร์

การติดเชื้อแบคทีเรียที่ผิวหนังจะทำให้เกิดตุ่มพุพอง เป็นภาวะที่พบได้บ่อยในเด็กทารกและเด็กก่อนวัยเรียน

อาการของการติดเชื้อแบคทีเรียที่ผิวหนัง 

  • เกิดแผลพุพอง  
  • เป็นผื่นแดง 
  • เป็นตุ่มน้ำใส 
  • มีอาการเจ็บหรือปวดได้เล็กน้อย
  • ผื่นมักเป็นบริเวณหน้า รอบจมูกและปาก อาจพบที่มือและเท้าร่วมด้วย

เมื่อผ่านไป 1  สัปดาห์ ผื่นจะแตกและมีน้ำเหลืองออกมา เมื่อน้ำเหลืองแห้งจะเป็นกลายเป็นสะเก็ดสีเหลือง (Honey Color Crust)   

การติดเชื้อแบคทีเรียตัวเดียวกัน ยังสามารถแบ่งอาการย่อย ๆ ได้ 3 แบบ

  • แบบมีตุ่มน้ำ (Bullous Impetigo)
  • แบบไม่มีตุ่มน้ำ (Non-Bullous Impetigo)
  • แบบเป็นตุ่มหนอง (Ecthyma)

ปัจจัยเสี่ยงของการติดเชื้อแบคทีเรียที่ผิวหนัง

  • เด็กเล็กอายุ 2-5 ปี มีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อมากกว่าเด็กวัยอื่น
  • มีประวัติสัมผัสผู้ป่วย 
  • อยู่ในที่ที่มีอากาศร้อนชื้น
  • ผิวหนังมีแผลที่เกิดจากการแกะ เกา หรือเกิดจากแมลงสัตว์กัดต่อย 
  • มีภาวะโรคผิวหนังบางชนิด เช่น ภูมิแพ้ผิวหนัง

ภาวะแทรกซ้อนที่พบได้หลังการติดเชื้อแบคทีเรียที่ผิวหนัง

  • เซลล์เนื้อเยื่ออักเสบ (Cellulitis) เป็นการติดเชื้อที่ผิวหนังในระดับลึก และอาจมีการติดเชื้อเข้ากระแสเลือดได้ 
  • ก่อให้เกิดภาวะไตผิดปกติในผู้ป่วยเด็กบางราย การติดเชื้อชนิดนี้ จะเกิดการอักเสบของไตตามมาได้ 
  • ทิ้งรอยแผลเป็นและสีผิวไม่สม่ำเสมอ 

การรักษาการติดเชื้อแบคทีเรียที่ผิวหนัง

สามารถรักษาได้โดยการกินยาฆ่าเชื้อแบคทีเรียเพื่อลดการกระจายของเชื้อ ร่วมกับการทายา และควรให้เด็กหยุดเรียนในช่วงที่มีผื่นเพื่อลดการติดต่อสู่เด็กคนอื่น โดยส่วนใหญ่การติดเชื้อแบคทีเรียที่ผิวหนังจะหายภายใน 7-10 วัน หลังเข้ารับการรักษา

นัดหมายแพทย์

นัดหมาย

Login